ใบปัดน้ำฝนมีกี่แบบ แล้วรถของคุณเป็นแบบไหน ?

หนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของรถยนต์ที่สำคัญในช่วงหน้าฝนคือ ใบปัดน้ำฝน เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้มองเห็นทางได้อย่างชัดเจนขึ้น และเดินทางได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง
ใบปัดน้ำฝนจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน - 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และชนิด รวมถึง คุณภาพของยางที่ใช้มาเป็นตัดครีบใบปัดน้ำฝน ดังนั้นหากใบปัดน้ำฝนของรถที่ใช้เกิดการชำรุด เสื่อมสภาพทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพก็ควรเปลี่ยนใหม่ เพราะจะทำให้ความชัดเจนในการมองเห็นเมื่อฝนตกลดลง โดยสิ่งนี้จะทำหน้าที่ปาดน้ำออกไปจากกระจกรถ จะมีหลายแบบ และมีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกัน มาดูกันเลยว่ามีแบบไหนบ้าง
1. ใบปัดน้ำฝนแบบมีโครงเหล็ก เป็นใบปัดน้ำฝนแบบทั่วไปดั้งเดิมที่ใช้กันมานาน ลักษณะที่สังเกตได้ของใบปัดชนิดนี้ก็คือ มีโครงเหล็กหรือโครงโลหะแขนยางใบปัดคู่กับยางใบปัดน้ำฝน มักจะเห็นใช้กันทั่วไปในรถยนต์มายาวนาน ข้อดีหนึ่งของใบปัดแบบมีโครงเหล็กคือมีความทนทาน ส่วนประสิทธิภาพในการปัดน้ำฝนประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของยางที่ใช้ จำนวนจุดที่เป็นข้อต่อของใบปัด โดยยิ่งมีจุดข้อต่อแขนใบปัดมากก็ยิ่งกระจายแรงกดไปยังยางได้มาก ทำให้ปัดน้ำได้ดี
2. ใบปัดน้ำฝนแบบซ่อนแขนใบปัด ใบปัดน้ำฝนแบบนี้ยังคงมีโครงเหล็กหรือแขนโครงโลหะเหมือนกับแบบแรก แต่ผู้ผลิตได้ออกแบบให้มีที่ครอบเพิ่มเข้ามาเพื่อครอบแขนใบปัดน้ำฝนไว้ ทำให้ยังคงเห็นยางของใบปัดน้ำฝนอยู่ โดยจุดประสงค์ของการมีที่ครอบแขนใบปัดน้ำฝนเพิ่มขึ้นมาก็เพื่อความสวยงาม มีประสิทธิภาพในการปาดน้ำที่ดี
3. ใบปัดน้ำฝนแบบไร้โครงเหล็ก ใบปัดน้ำฝนแบบนี้จะไม่สังเกตเห็นแขนโครงของใบปัดเลย เพราะไม่มีโครง และถูกออกแบบให้มีแกนเหล็กติดอยู่กับตัวยาง ออกแบบให้มีการกระจายน้ำหนักเท่าๆ กันทั่วทั้งใบปัด เพื่อประสิทธิภาพในการปาดน้ำที่ดี นอกจากนี้ใบปัดลักษณะนี้ยังลดพื้นที่ต้านลมเมื่อปัดในขณะขับด้วยความเร็วสูง รวมทั้งทางผู้ผลิตมักกล่าวว่ามีการออกแบบเพื่อให้มีแอโรไดนามิกที่ดีด้วย
ไม่ว่าใบปัดของคุณจะเป็นประเภทไหน เราก็ต้องหมั่นตรวจเช็คให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดทุกช่วงเวลาในการเดินทางของคุณ
หาซื้อใบปัดน้ำฝนคุณภาพได้ที่ สั่งซื้อคลิก