เคลือบสีรถอย่างไรให้คุ้มค่า
เคลือบสีรถ/เคลือบเงารถ คืออะไร ?
เคลือบสี คือ การขัดแว็กซ์ หรือน้ำยาพิเศษสำหรับเคลือบสีรถ เพิ่มความเงางามให้รถมีสีสันสดใส
ช่วยป้องกันผิวรถจากสิ่งสกปรก ลบรอยเล็กๆ ทำให้รถดูใหม่ขึ้น ป้องกันไม่ให้น้ำเกาะผิวรถจนเป็นคราบ
เคลือบสีรถ จำเป็นหรือไม่
เมื่อใช้บริการตามร้านล้างรถ ช่างจะเสนอการดูแลในส่วนของ การเคลือบสีรถจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
การเคลือบสีรถมีประโยชน์ทั้งการเพิ่มความเงางาม ช่วยให้รถมีสีสันสดใส ช่วยรักษาสภาพสีรถ
และรูปลักษณ์นอกให้คงความสดใหม่ พร้อมประโยชน์ดังนี้
- เพิ่มความเงางามให้รถ ช่วยให้รถยนต์ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ
- ช่วยให้ดูแลรักษารถได้ง่ายขึ้น เพราะน้ำยาเคลือบใช้คู่กับน้ำยาลบรอยขีดข่วนได้ ปกป้อง
พื้นผิวของตัวถังจากการกัดกร่อนได้ด้วย
- ป้องกันคราบสกปรก จะช่วยป้องกันคราบฝุ่นควัน คราบสกปรกบนท้องถนน
- ช่วยป้องกันรอยคราบน้ำได้ การเคลือบสีรถจะสามารถช่วยป้องกันคราบเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
- ช่วยป้องกันปัญหารถสีซีดจากแสงแดด แสงแดดมีส่วนสำคัญที่จะทำให้รถซีด หมอง สีรถเสื่อมสภาพเร็ว
การเคลือบสีรถ แยกประเภทดังนี้
1.เคลือบเงารถ ประเภทแว็กซ์
การเคลือบเงารถ แบบแว็กซ์ธรรมดา เป็นการเคลือบที่เราเห็นบ่อยที่สุด ที่ใช้ครีมขัดสีพร้อมการเคลือบสีรถไปด้วย
เริ่มต้นโดยมีค่าใช้จ่ายอุปกรณ์เคลือบเงารถประมาณ 300 - 1,500 บาท อายุการเคลือบค่อนข้างสั้น จะอยู่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์
ข้อดี: มีค่าใช้จ่ายน้อย
ข้อเสีย: ตัวเคลือบเงารถอยู่ได้แปบเดียว
2.เคลือบสีรถ ประเภทน้ำ
การเคลือบรถประเภทน้ำ โพลิเมอร์ซีลแลนท์ เปรียบเสมือนการเคลือบฟิล์มกันรอยรถยนต์บาง ๆ ไปทั่วทั้งคัน
จุดประสงค์หลักคือ รักษาสีของรถเป็นหลัก แต่ไม่เน้นความเงางาม เหมาะกับรถที่ใช้งานบ่อย รักษาสีให้สดใหม่อยู่เสมอ
ไม่เน้นความแวววาว จุดเด่นคือ สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 140 องศา ทำให้ปกป้องสีของรถได้ดี และนานกว่าแบบแว็กซ์
โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ได้นานถึง 1 – 2 เดือน
ข้อดี: ทนอุณหภูมิความร้อนได้สูง อยู่ได้นานกว่ารถแว็กซ์
ข้อเสีย: ความเงา/แวววาว ต่ำกว่าแบบอื่น
3.เคลือบสี ประเภทซิลิโคน
การเคลือบตัวซิลิโคนที่เปรียบเสมือนยางใสครอบไปทั้งตัวถังรถ ปกป้องสีและรอยขีดข่วน นอกจากจะป้องกันสีซีดจางได้ดีแล้ว
ยังป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆได้ โดยรวมคุณสมบัติทั้งข้อดีด้านอายุการใช้งานที่อยู่ได้ยาวนานนับปียิ่งกว่าการเคลือบแบบน้ำ
และยังมีความแวววาวเงางามเหมือนกับแบบแว็กซ์ ทั้งยังป้องกันได้ทั้งฝุ่น น้ำ และรังสียูวีจากแสงแดด
มีประสิทธิภาพในการป้องกันรอยขีดข่วนไม่สูงนัก และมีราคาค่อนข้างสูง
ข้อดี: ติดทนนาน ป้องกันฝุ่น น้ำ และรังสีUV ได้ดี เงางามเหมือนการแว็กซ์
ข้อเสีย: ป้องกันรอยขีดข่วนได้ไม่ดี มีค่าใช้จ่ายสูง
4.เคลือบแก้วรถยนต์
เป็นเทคโนโลยีการเคลือบรถยนต์ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยป้องกันได้ทั้งคราบน้ำ คราบน้ำฝน คราบโคลน และยางมะตอย
สิ่งสกปรกอื่นๆ ไม่ให้เกาะบนตัวรถ รวมทั้งมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 3-5 ปี ลดปัญหาฝุ่น คราบสิ่งสกปรก รอยขีดข่วน
และสีซีดจากแสงแดดได้ดีมากที่สุดทำให้รถดูเงางามเหมือนรถใหม่ตลอดเวลา
ข้อดี: ติดทนนานที่สุด ป้องกันสีรถได้ดีที่สุด มีสีสันเงางาม
ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูงที่สุด
นอกเหนือจากการล้างรถแล้ว การเคลือบสีรถ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการบำรุงรักษารถยนต์ที่น่าสนใจนะคะ
ช่วยยืดอายุการใช้งานให้รถของเราดูเหมือนใหม่ประหยัดแรงในการล้าง การเช็ด และสีสันรถยังดูเหมือนใหม่อีกด้วย