บอกลาปัญหาฝุ่นในรถ
5 วิธีกำจัดฝุ่นในรถยนต์
1.เช็คและทำความสะอาดที่กรองแอร์
กรองแอร์ จะช่วยกรองอากาศก่อนลมเย็นจากช่องแอร์ เข้าไปยังห้องโดยสาร ช่วยในการดักจับฝุ่นละออง เศษซากแมลงตัวเล็ก
ไม่ให้ผ่านเข้าไปยังห้องโดยสาร เมื่อเราใช้งานไปนานๆ ส่งผลให้ระบบปรับอากาศทำงานหนัก แอร์จะไม่ค่อยเย็น หากสิ่งสกปรกสะสมเข้ามากๆ
ก็จะเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรค แบคทีเรีย ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ ระบบทางเดินหายใจ หรือหอบหืด
และที่สำคัญเราควรเปลี่ยนทุก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร และตรวจเช็คทุก 10,000 กิโลเมตร
2.หมั่นตรวจเช็ค ความสะอาดในช่องแอร์
หากเราไม่ทำความสะอาดช่องแอร์จะทำให้เกิดฝุ่นสะสม เมื่อสูดดมเข้าไปอาจทำให้เสี่ยงเป็นภูมิแพ้
เพราะเท่ากับว่าเราได้สูดดมฝุ่นเข้าไปเต็มๆซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่ง
ที่ควรหมั่นดูแลทำความสะอาด ไม่ควรละเลย โดยให้หาแปรงปัดฝุ่นบริเวณช่องแอร์ มาปัดทำความช่องแอร์เป็นประจำ
3.ทำความสะอาดพรมรองเท้าในรถ
จุดนี้ เป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี หากเราไม่ได้ทำความสะอาด จะทำให้รถสะสมสิ่งสกปรกมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเศษผงฝุ่น เศษขยะเล็กๆ จะส่งผลเสียต่อสภาพอากาศภายในห้องโดยสารได้ จึงควรหมั่นทำความสะอาดพรมให้บ่อยขึ้น
โดยการเก็บเศษขยะทุกครั้งก่อนลงจากรถ และดูดฝุ่นให้หมดทุกซอกทุกมุม หรือนำพรมออกมาล้างให้สะอาดอยู่เสมอ
4.ทำความสะอาดเบาะรถ
เบาะในรถยนต์มีหลายแบบ ไม่ว่าจะเบาะหนัง หรือเบาะผ้า อีกทั้งตามซอกของเบาะ ก็เป็นอีกจุดนึงที่มีฝุ่นติดสะสมฝังแน่นอยู่เช่นกัน
ดังนั้นควรทำความสะอาดเบาะอยู่เสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ1 ครั้ง หรือแล้วแต่ความสะดวกค่ะ
5.ทำความสะอาดภายนอก/ในของรถ
หากมีโอกาสได้ทำความสะอาดนอกรถ ก็อย่าลืมที่จะทำความสะอาดทุกๆมุมในรถด้วยนะคะ โดยการใช้ผ้าชุบน้ำหรือฟองน้ำ
เช็ดฝุ่นในห้องโดยสารออกทุกซอกทุกมุม เช่น บริเวณแผงคอนโซล เพดานของรถ สายเข็มขัดนิรภัย ช่องเก็บของตามมุมต่างๆ
มุมขอบกระจก ที่จับประตูด้านใน เพื่อลดการเกาะของคราบฝุ่น และช่วยทำให้รถของเราสะอาดยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
หลังจากที่เราปฏิบัติตามแล้ว แอดมินแนะนำให้ทำเป็นประจำอยู่เสมอนะคะ เนื่องจากมลภาวะในปัจจุบัน ฝุ่นละอองในอากาศ
หรือฝุ่น PM 2.5 เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก และที่สำคัญนอกจากวิธีกำจัดฝุ่นแล้ว อย่าลืมที่จะสวมหน้ากากกันฝุ่นอีกชั้น
หรือติดเครื่องฟอกอากาศที่ป้องกันฝุ่น ฝุ่น PM 2.5 เพิ่มเติมได้นะคะ