ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตอนไหน ?

 

 

ผู้ใช้รถยนต์หลายคนยังมีความเชื่อแบบผิดๆ ว่า การที่รถยนต์สามารถขับใช้งานได้อยู่ทุกวันนั้น แสดงว่ารถยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์

ไม่มีความจำเป็นตรวจเช็คหรือบำรุงรักษาใดๆ แม้ว่าจะถึงเวลาตามที่คู่มือรถกำหนดหรือทางศูนย์บริการได้แจ้งไว้ โดยเฉพาะกับของเหลวต่างๆ ที่อยู่ในระบบซึ่งมีชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนไหว

‘ระบบเกียร์’ ซึ่งต้องใช้ ‘น้ำมันเกียร์’ ทำหน้าที่หล่อลื่น ระบายความร้อน และลดแรงเสียดสีระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ หากไม่มีการเปลี่ยนถ่ายตามระยะ อาจส่งผลโดยตรงต่อการขับขี่

เนื่องจากคุณสมบัติเฉพาะตัวของน้ำมันเกียร์นั้นเสื่อมสภาพลง หากฝืนใช้โดยไม่เปลี่ยนถ่าย ก็เสี่ยงทำให้ชิ้นส่วนภายในเกิดการชำรุดเสียหาย

 

อาการที่บ่งบอกว่าน้ำมันเกียร์เริ่มเสื่อมสภาพ

1.เข้าเกียร์ในตำแหน่ง D หรือ R แล้วรถออกตัวยาก

2.มีอาการกระตุกเมื่อเข้าเกียร์ D หรือ R

3.จังหวะการเปลี่ยนเกียร์สะดุด บางครั้งก็มีอาการวืด

4.เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ยากขึ้น

5.มีกลิ่นไหม้ และมีเสียงดังในจังหวะขับขี่หรือเมื่อต้องเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์

 

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์

โดยปกติทั่วไปไม่ว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ธรรมดา จะมีรอบการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 40,000 กม. หรือ 2 ปี

หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นก่อนถึงระยะ โดยเฉพาะคนที่ใช้งานรถอย่างสมบุกสมบัน เช่นการใช้งานสถานที่การจราจรติดขัดมากๆ มีการเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ และมีความร้อนในน้ำมันเกียร์มาก

สามารถนำรถเข้าตรวจเช็คอาการได้ทันที หรือเป็นไปได้ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ 25,000-30,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี

ในรอบการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้งจะมีการจดบันทึกวันที่ เดือน ปี และเลขกิโลเมตรไว้ทุกครั้ง เพื่อใช้คำนวณกำหนดการเปลี่ยนถ่าย

นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตได้เองจากอาการต่างๆ ของเครื่องยนต์ หรือดูได้จากคู่มือประจำรถรุ่น ซึ่งจะมีกำหนดระยะการเปลี่ยนถ่ายไว้

 

     ให้รถคู่ใจของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานไม่พังไวก่อนกำหนด ควรหมั่นสังเกตว่ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เหมือนอย่างที่

ยกตัวอย่างมาหรือไม่ อย่าลืมนำรถเข้าตรวจเช็ค เพื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะที่กำหนด